วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

สถานที่ชมพระอาทิตย์สุดคลาสสิกในเมืองไทย

สถานที่ชมพระอาทิตย์สุดคลาสสิกในเมืองไทย

               หากคุณตกหลุมรักแสงสีส้มที่คอยเวลาจะมาขนานกับเส้นขอบฟ้า หนึ่งวันสองเวลา ในยามใกล้ค่ำ และเมื่อใกล้รุ่งสาง แสงและสีสันแห่งธรรมชาติและบรรยากาศของพระอาทิตย์ขึ้น – ตก เป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ที่เรียกให้เหล่าผู้คนต่างพากันเดินทางไปยังจุดชมวิวต่างๆเพื่อหวังชื่นชมความงาม  แต่สถานที่ไหนจะติดอันดับความงามที่ควรไปมากที่สุด  PaiNaiDii  มีมาแนะนำค่ะ


1

วัดอรุณราชวราราม

ลขที่ 34 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงวัดอรุณ บางกอกใหญ่ ,กรุงเทพมหานคร 10

 จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกริมน้ำเจ้าพระยาที่ได้รับความนิยมสูงสุด ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอัมรินทร์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ตรงข้ามกับวัดโพธิ์ ข้ามเรือได้ที่ท่าเตียน 
เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า วัดแจ้ง ต่อมาเมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามาตั้ง ณ กรุงธนบุรี ได้โปรดเกล้าฯ ให้กำหนดเอาวัดแจ้งเป็นวัดในเขตพระราชฐานใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ได้อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ วัดนี้ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 2 จึงถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 
เมื่อบูรณะเสร็จแล้วได้พระราชทานนามว่า วัดอรุณราชธาราม ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการก่อสร้าง พระปรางค์องค์ใหญ่ซึ่งมีความสูง 82 เมตร กว้าง 234 เมตร แต่มาเสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดอรุณราชวราราม


2

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

119 หมู่ที่ 7 ต.บ้านหลวง จอมทอง ,เชียงใหม่ 5016

  อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ อีกหนึ่งดอยสูงที่ผู้คนพากันมุ่งหน้าเพื่อพิชิตความสูงชัน และพบกับความมหัศจรรย์ของความงามแห่งธรรมชาติ ทั้งวิวพระอาทิตย์ขึ้น และ ตก หรือ ดวงดาวเกลื่อนท้องฟ้า ไปจนถึงทะเลหมอดสุดลูกหูลูกตา 
ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อ พ.ศ.2515 ประกาศเป็นอุทยานฯ เป็นลำดับที่ 6 ของประเทศไทย มีพื้นที่ 482.4 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่มอำเภอแม่วาง และกิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่


3

อุทยานแห่งชาติภูเรื

อุทยานแห่งชาติภูเรือ ต.หนองบัว ภูเรือ ,เลย 42160


 อุทยานแห่งชาติภูเรือ เป็นจุดที่หนาวที่สุดในประเทศไทย และมีธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การทางท่องเที่ยวในฤดูหนาวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการชื่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น หรือ ทะเลหมอก มีลานกางเต็นท์จัดเตรียมไว้บริการนักท่องเที่ยวถึง 2 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ร้านอาหาร และที่สำคัญมีไฟฟ้าให้ใช้ตลอดคืน หรือถ้าไม่อยากนอนในเต็นท์ ทางอุทยานฯ ก็มีบ้านพักไว้บริการ เวลาเปิด ตั้งแต่ 5.00 – 20.00 น. ค่าธรรมเนียมเข้า ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท รถยนต์ 30 บาท ค่ากางเต้นท์ คนละ 30 บาทครับ 


4
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (ก่วมแดง)

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง หมู่ที่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน ภูกระดึง ,เลย 42180


  อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ท้าทายความสามารถของนักท่องเที่ยว ในการที่จะเป็นผู้พิชิตความสูง ในการปีนเขา ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,316 เมตร เต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด แหล่งน้ำตกตามธรรมชาติ หน้าผ้าต่าง ๆ บรรยากาศหนาว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทาย จะเดินทางมาเที่ยวเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน ๆ คณะทัวร์ หรือที่ทุกคนจะพูดอยู่เสมอว่า ถ้าอยากจะพิสูจน์รักแท้ ต้องพาคนที่คุณรักมาเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้


5

แหลมพรหมเทพ

ต.ราไวต์ เมืองภูเก็ต ,ภูเก็ต 83130

แหลมพรหมเทพ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต มีทัศนียภาพที่สวยงาม และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่ได้รับความนิยม เป็นที่ตั้งของประภาคารกาญจนาภิเษก สุดปลายของแหลมพรหมเทพ มีชื่อว่าแหลมเจ้า บริเวณตัวแหลมซึ่งยื่นออกไปในทะเล มีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยต้นตาลที่ขึ้นอยู่กลุ่มใหญ่
แหลมพรหมเทพ ถูกจัดเป็นหนึ่งในโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจุดเด่นคือ "ชมพระอาทิตย์ตกทะเล สวยที่สุดในประเทศไทย 

6

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม บ้านหนองผือน้อย ตำบลห้วยไผ่ โขงเจียม ,อุบลราชธานี 34220


อุทยานแผ่งชาติผาแต้มตั้งอยู่บนลานหินทรายของภูผาขาม ในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นจุดแรกของประเทศไทยที่จะได้พบกับแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นในแต่ล่ะวัน นิยมท่องเที่ยวกันมากในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อจะมารอรับแสงแรกแห่งปี และอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี ยังเป็นแหล่งดอกไม้ป่าที่สมบูรณ์มาก เนื่องจากทางอุทยานฯ ได้มีวิธีการจัดการสร้างสรรค์ให้ดอกไม้ป่าเหล่านี้อยู่ได้นาน และมีความสวยงามที่ตระการตายิ่งนัก ลักษณะของทุ่งดอกไม้มีสีเหลืองอร่าม ของดอกสร้อยสุวรรณาที่มีขนาดเล็ก มีดอกดุสิตา สีม่วงแซมแทรกพลิ้วไหวไปตามสายลม เราเลือกภูมิประเทศและทำเลที่มีองค์ประกอบ เป็นลักษณะลาดเทของลานหิน แนวต้นไม้ เลือกท้องฟ้าสีใสๆ ตัดกับสีเหลืองดอกไม้จนแลงามเด่นตา 
    
7

อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มป

224 หมู่ที่ 6 ตำบล โป่งน้ำร้อน ฝาง ,เชียงใหม่ 50110


ดอยฟ้าห่มปก หรือ อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก มีความสูงเป็นอันดับ 2 ของไทย ขึ้่นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ สัมผัสความงามของพระอาทิตย์ยามอัสดง ส่องนกหายาก และพบกับความงามของเหล่ากล้วยไม้ป่าสีสันสดใส 

อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก เดิมชื่ออุทยานแห่งชาติแม่ฝาง จัดเป็นยอดเขาสูงสุดของอุทยานฯบนความสูง 2.285 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง นิยมท่องเที่ยวในช่วฤกูหนาว

สภาพภูมิประเทศบนยอดดอยสูงสุดเป็นทุ่งโล่งอันเกิดจากสภาพธรณีวิทยาที่มีชั้นดินตื้น ชั้นหินเป็นหินแกรนิต ประกอบกับอากาศมีลมกรรโชกแรงตลอดทั้งปี จากยอดดอยจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม เช่น ทะเลหมอก และถนนบนสันเขา ขนานกับชายแดนไทย - พม่า ซึ่งถือเป็นถนนที่สร้างขึ้นเพื่อความมั่นคงระหว่างประเทศ ส่วนสภาพป่าเป็นป่าต้นน้ำ ป่าดิบเขา ซึ่งมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สมดุลและหลากหลายทางชีวภาพ


8

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว น้ำหนาว ,เพชรบูรณ์ 6726


จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามอีกและของประเทศไทย อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวอยู่ ในท้องที่อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวเขตกั้นระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือ สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นเทือกเขาสูง มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นต้นน้ำลำธาร มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง มีเนื้อที่ประมาณ 603,750 ไร่ หรือ 966 ตารางกิโลเมตร

ลักษณะภูมิประเทศ 
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเขตกั้นระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นเทือกเขาสูงทอดยาวผ่านจังหวัดชัยภูมิและจังหวัด เพชรบูรณ์ มีลักษณะเป็นเนินยอดป้านที่เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกบริเวณนี้ในอดีต มีความสูงอยู่ระหว่าง 650-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ประกอบด้วย ภูผาจิต ภูกุ่มข้าว โดยภูด่านอีป้องเป็นจุดสูงสุด มีความสูง 1,271 เมตรจากระดับน้ำทะเล ประกอบขึ้นเป็นป่าต้นน้ำลำธาร ต้นกำเนิดของลำธารสายยาว เช่น แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำพอง แม่น้ำเลย ห้วยขอนแก่น ห้วยน้ำเชิญ ซึ่งไหลลงสู่เขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนจุฬาภรณ์

ลักษณะภูมิอากาศ 
โดยทั่วไปอากาศหนาวเย็นในตอนดึกและตอนเช้า ส่วนใหญ่ตอนกลางวันอากาศเย็นสบาย จึงกล่าวได้ว่า อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวมี อากาศหนาวเย็นตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 25 องศาเซลเซียส ในฤดูฝนจะมีฝนตกชุกระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่วนใหญ่ฤดูหนาว อากาศหนาวเย็นมาก จนบางครั้งน้ำค้างจะกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง อากาศจะหนาวเย็นที่สุดในเดือนธันวาคมและมกราคม ซึ่งในบางปีอุณหภูมิจะลดต่ำถึง 0 องศาเซลเซียส

เหมาะแก่การมากางเต็นท์ ครอบครัว เพื่อนฝูง ทัศศึกษา ที่ทำการมีที่พักบริการค่ะ ควรสำรองห้องพักล่วงหน้าค่ะ

การเดินทาง ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อยู่ห่างจากตัวเมืองขอนแก่น 103 กิโลเมตร อยู่ห่างจากอำเภอหล่มสักประมาณ 55 กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนต์ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ถึง หลักกิโลเมตรที่ 50 มีป้ายชี้ทางเข้าสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถ้าไปโดยรถประจำทางสามารถขึ้นรถโดยสายจากขอนแก่นหรือหล่มสัก ซึ่งผ่านหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติทุกวัน สามารถจอดรถได้ ณ ที่ทำการอุทยาน


9

จุดชมวิวดอยกิ่วลม

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง แม่แตง ,เชียงใหม่ 50150


ดอยกิ่วลม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และ ทะเลหมอก ในช่วงหน้าหนาวนี้ที่สวยงามมีชื่อเสียงมาก พื้นที่ครอบคลุมอำเภอแม่แตง อยู่ในอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง แม่ฮ่องสอน อำเภอปาย และจังหวัดเชียงใหม่ รวมเนื้อที่ได้ ประมาณ 179.5 ตร.กม หรือ 112,187.5 ไร่ ลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน
การเดินทาง อุทยานตั้งอยู่ระหว่าง เชียงใหม่ - ปาย กิโลเมตรที่ 65 เลี้ยวไปอีก 6 กม. จะถึงบริเวณที่ทำการอุทยาน มีทั้งบ้านพักและบริการเต็นท์ให้แก่นักท่องเที่ยว


10

สะพานมอญ

หมู่ที่ 2 ต.หนองลู สังขละบุรี ,กาญจนบุรี 71240



สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือ สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านในการสร้าง และความงามของทัศนียภาพโดยเฉพาะบรรยากาศยามพระอาทิตย์ขึ้นและตก เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรี นับเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตัวสะพานมีความยาวถึง 900 เมตร ถูกสร้างขึ้นด้วยการนำของหลวงพ่ออุตตมะ ร่วมแรงร่วมใจกับชาวบ้านในหมู่บ้านมอญที่อยู่อีกฝั่งของสะพาน

การเดินทางรถโดยสารประจำทาง สถานีขนส่งหมอชิต มีรถไปถึงอ.สังขละบุรี รอบ 05.30 น.,06.30น.,09.30 น.และ 12.30 น. ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง ราคาค่ารถประมาณ 300 บาท

สถานีขนส่งสายใต้ ขึ้นรถไปลงขนส่งกาญจนบุรี แล้วต่อรถตู้,รถบขส.,รถมินิบัส ไปอ.สังขละบุรี รถมีตั้งแต่ 06.00 น.-15.00 น. ออกทุกๆครึ่งชั่วโมง ราคาค่ารถประมาณ 300 บาท




10 ที่เที่ยวในหน้าหนาวของเมืองไทย

10ที่เที่ยวในหน้าหนาวของเมืองไทย

อากาศบ้านเราเริ่มหนาวแล้ว สถานที่ต่างๆ เริ่มมีบรรดานักท่องเที่ยว ทยอยขึ้นดอยสัมผัสความหนาว ทะเลหมอก น้ำค้าง และสายลมกันบ้างแล้ว ชีวิตคนเมืองอย่างเราไม่ค่อยได้สัมผัสอากาศหนาวเท่าไรนัก (นอกจากความหนาวจาก แอร์คอนดิชั่น) แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัด ก็พอจะมีโอกาสได้รับรู้ถึงความหนาวกันบ้าง ยิ่งบนยอดดอยไม่ต้องพูดถึง บางแห่งหนาวเกือบตลอดทั้งปี
สำหรับวันนี้ เรามีสถานที่ ที่น่าสนใจ 10 แห่ง ที่มักจะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาสัมผัสความหนาวให้ได้รู้จักกัน ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่อยู่ในเขตเทือกเขาทางภาคเหนือ ลองมาดูกันซิคะว่าเราเคยไปเที่ยวกันครบทั้งสิบแห่งหรือยัง

1. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่


ชื่อนี้มักจะเป็นติดอันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยว เดิมชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่า ดอยอ่างกานั้น เพราะมีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือน อ่างน้ำ มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา หรือ ดอยอ่างกา
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,599 เมตร) จึงทำให้มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ มี น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ ถ้ำบริจินดา โครงการหลวงอินทนนท์ และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายจุด

2. ดอยอ่างขาง


ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง
10 ที่เที่ยวในหน้าหนาวของไทย (ภาคเหนือ)
10 ที่เที่ยวในหน้าหนาวของไทย (ภาคเหนือ)
10 ที่เที่ยวในหน้าหนาวของไทย (ภาคเหนือ)
10 ที่เที่ยวในหน้าหนาวของไทย (ภาคเหนือ)
เป็นที่ตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ภายในสถานีมีโครงการวิจัยผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว งานสาธิตพืชไร่ แปลงทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาว สวนบอนไซ มีการจำหน่ายผลิตผลพืชผักเมืองหนาวที่ปลูก ในบริเวณโครงการฯ ให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล ในสถานีฯ มีที่พัก และมีสถานที่กางเต็นท์บริการแก่นักท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ


3. เขาค้อ – อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์

 เขาค้อ – อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
เขาค้อ – อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
 เขาค้อ – อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
เขาค้อ – อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ชื่อว่าเขาค้อเป็นเพราะ ป่าบริเวณนี้มีต้นค้อขึ้นอยู่มาก เนื่องจากภูมิอากาศบนเขาค้อเย็นตลอดปี ค่อนข้างเย็นจัดในฤดูหนาว และมีทัศนียภาพสวยงาม จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ของเพชรบูรณ์ สถานที่น่าสนใจบนเขาค้อได้แก่ อนุสาวรีย์จีนฮ่อ ฐานอิทธิเจดีย์ พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ หอสมุดนานาชาติเขาค้อ พระตำหนักเขาค้อ น้ำตกศรีดิษฐ์ สวนสัตว์เปิดเขาค้อ และเนินมหัศจรรย์ หมู่บ้านคุ้มจุดชมวิวกิ่วลม หมู่บ้านนอแล และหมู่บ้านขอบด้ง หมู่บ้านหลวง

 4. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

ด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีเทือกเขาและภูเขาสูง สลับซับซ้อน ครอบคลุมอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภูเขาที่สูงที่สุด คือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย ฤดูหนาวอากาศเย็น ลมแรง


5. ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง จ.เชียงราย

ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง จ.เชียงราย

ภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ยิ่งตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นมาตรงระหว่างปลายยอดเขา จะดูเหมือน เสือคาบแก้วมาก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร ส่วนของหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว
10 ที่เที่ยวในหน้าหนาวของไทย (ภาคเหนือ)

ดอยผาตั้ง อยู่บนเทือกดอยผาหม่น เป็นจุดชมวิวสองฝั่งโขง ไทย-ลาว และทะเลหมอก บนดอยมีหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะ ชาวจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็น ส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามา ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล


6. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง


อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง ของเมืองไทย เพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและ ภูมิประเทศหลากหลาย ทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและ หน้าผาชมทิวทัศน์ ลักษณะเด่นของอุทยานฯ แห่งนี้คือเป็นภูเขาหินทราย ยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่คล้ายใบบอนหรือรูปหัวใจ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดท่องเที่ยวประทับใจได้แก่ ผานกแอ่น ผาหล่มสัก ผาหมากดูด น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำสอเหนือ-ใต้ สระอโนดาด เป็นต้น


7. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัดคือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ไร่ภูหินร่องกล้ามียอดเขาสูง 1,617 เมตร มีทิวทัศน์สวยงาม ปกคลุมด้วยป่าเต็งรังป่าดิบเขา และป่าสนเขา มีสนสองใบและสนสามใบ ขึ้นปะปนกัน และพบกล้วยไม้ดอกไม้ป่าหลายชนิดขึ้นอยู่ตามลานหิน เคยเป็นศูนย์กลางที่ตั้งฐานที่มั่นการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ และสำคัญที่สุดของภาคเหนือ จุดที่น่าสนใจ ลานหินปุ่ม ลานหินแตก น้ำตกหมันแดง เป็นต้น


8. ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ – ดอยแม่เหาะ จ.แม่ฮ่องสอน

ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ – ดอยแม่เหาะ จ.แม่ฮ่องสอน
ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ – ดอยแม่เหาะ จ.แม่ฮ่องสอน
 ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ – ดอยแม่เหาะ จ.แม่ฮ่องสอน
ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ – ดอยแม่เหาะ จ.แม่ฮ่องสอน
ดอยแม่อูคอ เป็นทุ่งดอกบัวตองที่มีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้าง ประมาณ 1 พันไร่ ดอกบัวตองที่นี่เมื่อบานพร้อม ๆ กันในช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา ดอยแม่เหาะ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 10-8 ตรงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 84 เขตตำบลแม่เหาะ เป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณนี้ มีภูมิประเทศที่งดงาม มีชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง อยู่เป็นส่วนมาก ในเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม ของทุกปี ดอกบัวตอง หรือทานตะวันป่า จะบานสะพรั่ง ไปทั่วหุบเขา สวยงามมากทีเดียว 


9. อุทยานแห่งชาติภูเรือ

อุทยานแห่งชาติภูเรือ

เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือ มีส่วนหนึ่งเป็นผา ชะโงกยื่นออกมาเหมือน หัวเรือสำเภาใหญ่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ จุดที่น่าสนใจบนอุทยานได้แก่ ผาโหล่นน้อย ภูผาสาด และทะเลภูเขา ผาซับทอง หรือ ผากุหลาบขาว เป็นหน้าผาสูงชัน และแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทอง ขึ้นเต็มไปทั่ว น้ำตกห้วยไผ่ เป็นน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาสูงชัน ยอดภูเรือ เป็นจุดสูงสุดในอุทยานฯ สามารถมองเห็น แม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาว


10. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
สภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงที่ป่าปกคลุมอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี การเดินทางขึ้นดอยค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อขึ้นไปถึงแล้วจะพบดอกไม้ป่า พันธุ์ต่าง ๆ เช่น ดอกหงอนนาค ดอกไม้ดินต่าง ๆ สวยงามมาก แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่น้ำตกภูสอยดาว และลานสน 

รวมสุดยอดถนนวิวสวย ในเมืองไทย!

      รวมสุดยอดถนนวิวสวย ในเมืองไทย!

ทุกทริปการท่องเที่ยว แม้ไฮไลต์สำคัญจะอยู่ที่จุดหมายปลายทาง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความงดงามของทิวทัศน์ ตลอดสองฝั่งที่กำลังแล่นผ่าน หลายครั้งมอบความประทับใจให้เรา ชนิดที่อยากจะสถาปนาให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเสียด้วยซ้ำ ซึ่งในเมืองไทยก็มีถนนหลายสายที่ถูกยอมรับว่าวิวรอบข้างสวยงาม รอให้คุณไปสัมผัส และ PaiNaiDii ก็จัดมาให้ชมอีกเช่นเคย...

ถนนทางขึ้นดอยอ่างขาง  ชมพญาเสือโคร่งชมพูสะพรั่ง 








“ซากุระเมืองไทย” หรือนางพญาเสือโคร่ง หนึ่งในดอกไม้ตระกูลซากุระที่เมืองไทยมีให้ชมอยู่หลายแห่ง  โดยจะเริ่มผลิความงามให้ยลโฉมในช่วงปลายเดือนธันวาคม-สิ้นเดือนมกราคมของทุกปี และสถานที่ที่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะผลิบานเร็วที่สุดคือดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งดอกจะมีการเติบโตแตกต่างจากที่อื่นๆ คือจะชมพูสะพรั่งริมสองข้างถนน ตลอดเส้นทางขึ้นไปดอยอ่างขางจนถึงโครงการหลวง ช่วยสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ในช่วงปลายปีมักจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมและเก็บภาพสวยๆ กันเป็นจำนวนมาก หากใครชอบ Mood แบบเกาหลีหรือญี่ปุ่น ทริปปีใหม่นี้อย่าลืมจดดอยอ่างขาง เป็นปลายทางด้วยล่ะ






หากจะนับจำนวนภาพยนตร์หรือโฆษณาที่ยกกองมาถ่ายทำ ณ ถนนสายนี้ คงต้องยืมนิ้วเพื่อนอีกหลายคนมาช่วยกันนับถึงจะพอ เหตุจากความงามของถนนเลียบหาดคุ้งวิมาน จังหวัดจันทบุรี ชายหาดเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน และโดดเด่นเรื่องทัศนียภาพอันน่าประทับใจ โดยบริเวณที่ถูกยกให้เป็นไฮไลต์คือถนนโค้งรูปตัวเอส (S) ซึ่งสามารถชมวิวทะเลได้อย่างใกล้ชิดแบบ Panorama ไร้สิ่งขวางกั้น รวมถึงจุดชมวิวเนินนางพญา เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่ริมผาและมีความงดงามมาก สามารถทอดสายตาชมทิวทัศน์น้ำทะเลใส ของหาดคุ้งวิมานและอ่าวคุ้งกระเบน ได้ไกลสุดสายตาอย่างชัดเจน โดยถนนเลียบหาดคุ้งวิมานถูกยกย่องให้เป็นถนนเลียบหาดสวยที่สุดในภาคตะวันออก ช่วงเวลาที่เหมาะมาท่องเที่ยวคือประมาณเดือนพฤศจิกายน – พฤษภาคม

ทึ่ง!ทะเลดอกไม้ ถนนในวนอุทยานทุ่งบัวตอง 






แล่นจากตัวเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน สู่อำเภอขุนยวม มุ่งหน้ายังถนนทางหลวงหมายเลข 1263 ก่อนเลี้ยวเข้าสู่วนอุทยานทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ อีก 26 กิโลเมตร พลันถึงที่หมายราวกับถูกมนต์สะกด เพราะทิวทัศน์ขนาบข้างของเส้นทางจนเกือบสุดปลายถนน 108  ถูกห้อมล้อมด้วยขุนเขาที่มีทุ่งบัวตองผลิบานเหลืองอร่ามละลานตา บวกกับบรรยากาศหนาวๆ ตามฤดูกาล ยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้สถานที่แห่งนี้น่าประทับใจ ช่วงเวลาเหมาะสมสำหรับการชมดอกบัวตอง คือตอนเช้าตรู่เพราะเมื่อแสงแรกของวันสาดส่อง สีเหลืองของดอกบัวตองจะเปล่งประกาย ดูเป็นสีทองตระกาารตามากกว่าเวลาอื่น และจะออกดอกเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นธันวาคมเท่านั้น ซึ่งนอกจากความงามของดอกบัวตองยามรับอรุณ ยังสามารถชมทะเลหมอกที่จับกลุ่มหนาตา ส่วนในตอนเย็นนักท่องเที่ยวก็นิยมมาชมพระอาทิตย์ตกดิน ภายใต้ความเงียบสงบท่ามกลางแสงดาวยามพลบค่ำ






นอกจากจะเป็นเจ้าของสถิติสะพานคอนกรีตยาวที่สุดในประเทศไทย 2,640 เมตร สะพานติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลายังนับเป็นเส้นทางวิวสวยที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะถนนตลอดสายทอดข้ามผ่านทะเลสาบสงขลา ผืนน้ำกว้างใหญ่สีฟ้าครามที่คุณสามารถชมทิวทัศน์ได้แบบ Panorama 180 องศา โดยสะพานติณสูลานนท์จะเชื่อมจากฝั่งบ้านน้ำกระจายผ่านเกาะยอ ไปฝั่งเขาเขียว เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง ส่วนที่มาของชื่อสะพาน เป็นเพราะมีการก่อสร้างในสมัยที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันนอกจากจะเป็นเส้นทางคมนาคม สะพานติณสูลานนท์ยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา หากใครอยากชมวิวทะเลสาบงามๆ ก็สามารถมาได้ตลอดเวลาทุกฤดูกาล

ยอดเขาที่สวยที่สุดในประเทศไทย

ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย


 อันดับ 10. ดอยลังกาน้อย
10 อันดับ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย
                ดอยลังกาน้อย มีความสูง 1,800 เมตร ครอบคลุมรอยต่อของสาม จังหวัดคือ เชียงราย เชียงใหม่ และลำปาง สภาพภูมิศาสตร์เป็นเขาหัวโล้น เส้นทางก่อนจะขึ้นสู่ ดอยลังกาน้อย ค่อนข้างอันตรายมาก เป็นหน้าผาหินสูงชัน มีเพียงก้อนหินที่ถูกกัดเซาะเป็นร่องโดยแรงลมและฝีมือมนุษย์ พอให้เป็นที่ยึดเกาะและปีนป่าย บนยอดดอยเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง

 อันดับ 9. ยอดเขาหลวง
                 ยอดเขาหลวง มีเทือกเขาที่สลับซับซ้อน เป็น ยอดเขาที่สูงที่สุดในภาคใต้ มียอดเขาสูงสุดอยู่ที่ระดับ 1,835 เมตร จากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีสภาพเป็นป่าดิบชื้นและป่าดิบเขา เส้นทางการเดินในอุทยานแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะป่าเฟิร์นโบราณและกล้วยไม้หายากนานาชนิด

อันดับ 8. ยอดเขาโมโกจู
                  ยอดเขาโมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร มีระดับความสูงอยู่ที่ 1,950 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดแห่งหนึ่งในป่าตะวันตก มีหมอกและเมฆฝนปกคลุมตลอดปี จึงได้ชื่อตามภาษากะเหรี่ยงว่า “โมโกจู”แปลว่า เหมือนฝนกำลังจะตก อ่านต่อ >>

อันดับ 7. ดอยช้าง
               ดอยช้าง ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่ จุดสูงสุดมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,962 เมตร เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกในตอนเช้า ดอยช้าง ปกคลุมด้วยป่าดิบเขาอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของนกนานาชนิด เช่น นกเดินดง นกจับแมลง นกเขน นกปรอด

 อันดับ 6. ดอยภูคา
       ดอยภูคา ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 8 อำเภอ ของจังหวัดน่าน คือ อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเชียงกลาง อำเภอสันติสุขอำเภอแม่จริม และอำเภอบ่อเกลือ จุดสูงสุุดมีความสูงถึง 1,980 เมตร อุดมด้วย ดอกชมพูภูคา ซึ่งเป็นพันธ์ไม้หายากและมีที่แห่งนี้ที่เดียวในประเทศไทย

 อันดับ 5. ดอยลังกาหลวง
             ดอยลังกาหลวง เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติขุนแจ ครอบคลุมบริเวณรอยต่อ 3 จังหวัดคือเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง มีความสูงถึง 2,031 เมตร สภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเดินป่า

อันดับ 4. ภูสอยดาว
       ภูสอยดาว ครอบคลุมท้องที่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และ อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก มีความสูงถึง 2,102 เมตร สภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ ทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังคือ น้ำตกภูสอยดาว การเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างสะดวกสบาย ไม่ยากลำบากเหมือนกับดอยอื่นๆ

 อันดับ 3. ดอยหลวงเชียงดาว
    ดอยหลวงเชียงดาว มีความสูงถึง 2,195 เมตร อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นดอยที่มีความสวยโดดเด่นและแปลกตา มีทะเลหมอกที่สวยงาม การขึ้นไปยังดอยแห่งนี้ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งอาหารการกิน และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ เพราะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้น อ่านต่อ>>

อันดับ 2. ดอยผ้าห่มปก
                   ดอยผ้าห่มปก หรือ ดอยฟ้าห่มปก (คนท้องถิ่นเรียก ดอยผาหลวง) เป็นยอดเขายอดหนึ่งบนเทือกเขาแดนลาว มีความสูงถึง 2,285 เมตร เดิมอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ฝาง ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เหตุที่เรียกว่า ดอยผ้าห่มปก เนื่องจากต้นไม้บนเทือกเขาแห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วย “มอส” ดูเหมือนมีผ้ามาห่มต้นไม้ไว้ ในช่วงฤดูหนาวเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง อ่านต่อ>>

อันดับ 1. ดอยอินทนนท์
ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย
       ดอยอินทนนท์ มีความสูงถึง 2,600 เมตร มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอดอยหล่อ อำเภอจอมทอง และ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย พาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า เป็น ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่คนไทยและเทศ

ตามไปเที่ยว...เกาะที่สวยที่สุดในประเทศไทย

ตามไปเที่ยว...เกาะที่สวยที่สุดในประเทศไทย

ประเทศไทย...ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามติดอันดับโลก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่งดงามเกินบรรยาย ภาพของน้ำทะเลสีคราม หาดทรายขาวละเอียด ทิวมะพร้าวเรียงราย คงชินตาใครหลาย ๆ คน วันนี้กระปุกท่องเที่ยวเลยขอหยิบเอา "เกาะที่สวยที่สุดในประเทศไทย" อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมาบอกกัน ดังต่อไปนี้…   

หมู่เกาะสิมิลัน

หมู่เกาะสิมิลัน

          หมู่เกาะสิมิลัน เป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ ในทะเลอันดามัน มีทั้งหมด 9 เกาะ เรียงลำดับจากเหนือมาใต้ ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง (มี 2 เกาะติดกัน) เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก (เกาะบอน) เกาะสิมิลัน และเกาะบางู โดยหมู่เกาะเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความงาม ทั้งบนบกและใต้น้ำที่ยังคงความสมบูรณ์ของท้องทะเล สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก มีปะการังที่มีสีสันสวยงามหลากชนิด ปลาหลากสีสันและหายาก 

          ทั้งนี้ เกาะสิมิลัน หรือ เกาะแปด เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน ลักษณะอ่าวเป็นรูปโค้งเหมือนเกือกม้า มีหาดทรายขาวละเอียดเนียนนุ่มน้ำทะเลใสน่าเล่น ใต้ทะเลมีปะการังสวยงามหลายชนิด และมีปลาประเภทต่าง ๆ ที่มีสีสันสวยงามมากมาย เป็นเกาะที่สามารถดำน้ำทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น และทางด้านเหนือของเกาะมีก้อนหินขนาดใหญ่ รูปร่างแปลกตา ตอนบนที่ตรงกับแนวหาดมีหินรูปเรือใบ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่จะมองเห็นความสวยงามของท้องทะเลได้กว้างไกล

          ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุด ส่วนเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน เป็นฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีคลื่นลมแรงเป็นอันตรายต่อการเดินเรือและทางอุทยานฯ จะประกาศปิดเกาะในเดือนพฤษภาคมเพื่อเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติทุกปี    

เกาะล้าน 

เกาะล้าน


          เกาะล้าน อยู่ห่างชายฝั่งพัทยาเพียง 7 กิโลเมตร นั่งเรือโดยสาร 45 นาที มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ โดยเฉพาะที่หาดตาแหวน หาดทองหลาง หาดนวล และหาดเทียน ส่วนหาดแสมบรรยากาศเงียบสงบกว่าหาดอื่น บริเวณเกาะล้านและเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เช่น เกาะครก และเกาะสาก เป็นแหล่งตกปลาดำน้ำดูปะการัง ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น และเป็นสถานที่ฝึกหัดเรียนดำน้ำ


 หมู่เกาะพีพี

กระบี่
          หมู่เกาะพีพี อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกระบี่ 42 กิโลเมตร เป็นหมู่เกาะกลางทะเล ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน ถือเป็นอัญมณีเลอค่าแห่งทะเลอันดามัน ที่โด่งดังติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก ด้วยความงดงามของเวิ้งอ่าวคู่ของอ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัมอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ 

          บวกกับทะเลในสีเขียวมรกตสวยใสที่โอบล้อมหาดทรายขาวนวลละเอียดราวแป้งของ "อ่าวมาหยา" พร้อมแนวปะการังและสรรพชีวิตหลากสีสันนานาพันธุ์ในโลกใต้ทะเล สิ่งเหล่านี้คือแม่เหล็กที่ดึงดูดให้นักเดินทางนับล้านชีวิตจากทั่วทุกมุมโลก หลั่งไหลมายังหมู่เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ เพื่อจะมาเยี่ยมเยือนและสัมผัสให้เห็นกับตาตัวเอง จนได้รับการยกย่องว่าเป็นเกาะที่สวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก และได้ฉายาว่า...มรกตแห่งอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี




เกาะกูด


เกาะกูด

          เกาะกูด เกาะสุดท้ายปลายทะเลตะวันออกในจังหวัดตราดของไทย ติดชายแดนทางทะเลของกัมพูชา ด้วยความที่เป็นเกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ทำให้ดินแดนแห่งนี้เปี่ยมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มากมาย และสวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวและการพักผ่อน และด้วยพื้นที่ที่เป็นภูเขาและที่ราบสันเขา จึงเป็นต้นกำเนิดลำห้วยต่างๆ ซึ่งก็ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกหลายแห่ง บนเกาะกูดยังมีสถานที่ท่องเที่ยว คือชายหาดเนียนละเอียด เคียงข้างน้ำทะเลใสแจ๋ว อีกทั้งยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์และแนวปะการังนานาชนิด จนได้รับสมญานามว่า "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก"

 เกาะพยาม

เกาะพยาม

 เกาะพยาม จังหวัดระนอง เป็นเกาะขนาดใหญ่ มีชาวบ้านอาศัยอยู่บนเกาะประมาณ 160 ครัวเรือน ชาวบ้านมีอาชีพทำสวนมะม่วงหิมพานต์ สวนยางพาราและประมงชายฝั่ง กิจกรรมบนเกาะจะมีการตกปลา ขี่จักรยานรอบเกาะ และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำดูปะการัง เกาะพยามถือเป็นแหล่งดูปะการังที่สมบูรณ์สวยงาม และด้านทิศตะวันออกของเกาะไม่มีหาดทราย แต่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน และมีชาวเล เผ่ามอแกน มาอาศัยอยู่เป็นบางครั้ง บนเกาะพยามมีที่พักบริการนักท่องเที่ยว



หมู่เกาะอาดัง-ราวี
          หมู่เกาะอาดัง-ราวี ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสตูล และอยู่ในเขตทะเลอันดามัน เป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีสภาพธรรมชาติที่น่าสนใจ โดย เกาะอาดัง ในอดีตเป็นที่ซ่องสุมของโจรสลัด ปล้นสะดมเรือ มีหาดทรายขาวละเอียด สวยงาม และมีแนวปะการังอยู่รอบๆ เกาะ เหมาะสำหรับดำน้ำตื้น เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ตต. 5 (แหลมสน) อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 40 กิโลเมตร 

          ส่วน เกาะราวี มีหาดทรายขาว น้ำใส เงียบสงบ เหมาะแก่การกางเต็นท์พักผ่อน เล่นน้ำ ดำน้ำตื้น และดำน้ำลึกชมแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่น่าชม เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ตต. 6 (หาดทรายขาว) และหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ตต. 7 (ตะโละปะเหลียน) ซึ่งเดือนที่เหมาะแก่ท่องเที่ยวอยู่ในระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน


เกาะำไข่

          เกาะไข่ หรือ เกาะตอริลลา เป็นเกาะเล็ก ๆ สองเกาะ เรียกว่า เกาะไข่นอก เกาะไข่ใน ทั้งสองเกาะมีหาดทรายขาวน้ำทะเลใสมีปลาหลากชนิดสีสันสวยงามว่ายอยู่ใกล้ ๆ ชายหาด มีปะการังสวยงาม การเดินทางไปเกาะไข่สามารถซื้อทัวร์ได้จากบริษัทนำเที่ยว หรือเช่าเรือได้จากท่าเรือเกาะสิเหร่ ท่าเรือแหลมหิน หรืออ่าวฉลอง ในจังหวัดภูเก็ต


เกาะตาชัย

          เกาะบริวารแห่งใหม่ของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ถูกพบครั้งแรกโดยชายที่ชื่อ ตาชัย ทำให้ตั้งชื่อเกาะตามคนค้นพบว่า เกาะตาชัย ช่วงเวลาที่เกาะตาชัยงดงามที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน จากนั้นเกาะตาชัยจะปิด 6 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู 

          สำหรับจุดเด่นที่ทำให้เกาะตาชัยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใคร ๆ ก็อยากเดินทางไปชื่นชม คือ ชายหาดทรายขาวเม็ดละเอียด เนื้อนุ่ม ที่มีความยาวทอดตัวขนานไปกับผืนน้ำประมาณ 700 เมตร และการเดินป่าเข้าไปดู ปูไก่ ปูน้ำจืดที่ชอบอาศัยอยู่ตามธารน้ำ มีลำตัวสีแดงสด มีก้ามสีดำเหลือบน้ำเงิน เวลาร้องจะมีเสียงคล้ายไก่ ชอบออกหากินในช่วงกลางคืน รวมถึงเป็นจุดดำน้ำดูปะการังที่ทอดตัวยาวขนานกับชายหาด ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย